วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ชิวาวา (Chihuahua) น้องหมาตัวจิ๋ว ขนาดกะทัดรัด ฉลาดและร่าเริง

 


ลักษณะทั่วไป


     ชิวาวา เป็นสุนัขขนาดเล็ก ถือว่าตัวเล็กที่สุดในโลก!! หูมีขนาดใหญ่ ดวงตากลมโต เหมาะที่จะใช้เลี้ยงเป็นเพื่อน ชอบออกไปเดินเล่นกับเจ้าของ เห่าเสียงดัง ค่อนข้างติดเจ้าของและไม่ทำลายข้าวของ

ความเป็นมา

    ชิวาวาหรือเจ้าชิวาว่ามีต้นกำเนิดที่ประเทศเม็กซิโก ชาวพื้นเมืองนิยมเลี้ยงเพราะมีความเชื่อถือในเรื่องโชคลางต่างๆ จนถึงขั้นมีการนำชิวาวาไปใช้ในพิธีบูชายันต์!!

ลักษณะนิสัย

     ชิวาวาเป็นสุนัขมีความฉลาดและจงรักภักดีต่อเจ้าของมา กเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ โดยปกติมักเป็นสุนัขที่เงียบสงบไม่ค่อยเห่าส่งเสียงร บกวน เว้นแต่จะถูกรบกวนหรือทำตกใจจึงจะเห่าเพื่อรักษาที่อ ยู่อาศัยของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีนิสัยกล้าหาญมักจะยืนหยัดต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่า แต่ก็มีอัธยาศัยที่ดีกับสุนัขตัวอื่นหรือสัตว์เลี้ยง ชนิดอื่นๆ

{pic-alt}

การดูแล
   

     วงอายุที่ต้องการเอาใจใส่มากที่สุดในการเลี้ยงชิวาวาเพราะสุนัขจะตายมากที่ สุดคือช่วงอายุระหว่าง 2-3 เดือน เนื่องจากวัยนี้เป็นช่วงที่สุนัขเพิ่งเริ่มอดนมใหม่ๆ ซึ่งหากลูกสุนัขกินอาหารอะไรที่ผิดไปเพียงนิดเดียว ก็จะส่งผลให้สุนัขท้องเสียได้ โดยถ้าสุนัขตัวไหนไม่มีภูมิต้านทานได้รับเชื้อก็อาจจะถึงตายได้เหมือนกัน แต่หลังจากช่วงอายุ 2-3 เดือนไปแล้ว ก็สามารถที่จะเอาใจใส่น้อยลงได้

     แล้ววิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสุนัขมีอาการผิดปกตินั้นให้สังเกตจากการที่สุนัขไม่ค่อยกินข้าวหรือกิน ข้าวน้อยลงก็ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าสุนัขกำลังจะไม่สบาย และส่วนการให้อาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปที่มี จำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมาให้กับสุนัขกินได้เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับสุนัข เท่านั้น

     ในเรื่องของการออกกำลังกาย ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้ชิวาวาไปออกกำลังกายได้เองภายในสวนหรือพื้นที่จำกัด แต่ชิวาวาชอบที่จะออกไปเล่นกับเจ้าของมากกว่า

     ส่วนเรื่องสุขภาพนั้นโรคที่จะเกิดขึ้นกับชิวาวาก็จะเหมือนกับสุนัขพันธุ์ อื่นทั่วๆ ไป ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคลำไส้อักเสบกับไข้หัด สาเหตุของโรคทั้งสองเป็นโรคติดต่อซึ่งหากสุนัขตัวไหนไม่มีการฉีดวัคซีนแล้ว ไปถูกเชื้อเข้าก็จะติดต่อได้

{pic-alt}


ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เลี้ยงชิวาวาต้องมีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกายบ่อยๆ เพื่อควบคุมน้ำหนัก และต้องมีความรอบคอบในการดูแลสุนัข เนื่องจากชิวาวาเป็นสุนัขพันธุ์เล็กหากผู้เลี้ยงไม่มีความระมัดระวังอาจจะ เผลอถอยรถเหยียบหรือพลัดหล่นจากมือตกลงมาตายหรือกัดสายไฟถูกไฟช๊อตตายได้ ดังนั้นการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีที่สุดคือการใส่สุนัขไว้ในกรงตลอดเวลา

ข้อควรจำ


     ระวังอย่าให้ศีรษะได้รับการกดหรือการกระแทก เพราะน้องชิวาวามีความเสี่ยงที่กระโหลกหน้าผากจะปิดไม่สนิทแม้จะอยู่ในช่วง โตเต็มวัย นอกจากนี้ ฟันของชิวาวามักมีหินปูนจับบ่อย จึงต้องพาไปหาสัตวแพทย์ ปีละ1-2ครั้ง


{pic-alt}






พุดเดิ้ล (Poodle) ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย

{pic-alt}

{pic-alt}




 


ลักษณะทั่วไป


     พูเดิ้ลที่มีสายพันธุ์ดีจะเป็นสุนัขที่ฉลาดและตอบสนองไวที่สุดในบรรดาสุนัข ทั้งหมด พูเดิ้ลมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน ขนาดเล็ก และขนาดทอย(ตุ๊กตา) พูเดิ้ลทุกขนาดจะเป็นสุนัขที่น่าหยิกน่าหมั่นไส้ แสนประจบ ซน และขี้เล่น พูเดิ้ลพันธุ์เล็กกับพันธุ์ทอยมีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า และมีความอดทนกับเด็กน้อยกว่าพันธุ์สมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม พูเดิ้ลเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ซึ่งคุณก็ควรฝึกสอนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะเห็นว่ามันมีความสามารถในการทำตามคำสั่งที่ยอดเยี่ยมทีเดียว ข้อเสียของมันก็คือมันมีนิสัยชอบเห่า แต่คงเพราะตัวเล็กไปหน่อยจึงได้แต่เห่าอย่างเดียว ทำอะไรใครไม่ได้ สุนัขพันธุ์นี้เหมาะที่จะเลี้ยงในคอนโด แต่ก็ควรให้ได้รับการออกกำลังกายพอสมควรด้วยแต่ถ้าใครคิดจะเลี้ยงเจ้าพุด เดิ้ลขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าพันธุ์ทอย) ก็จงระวังให้ดี เพราะมันค่อนข้างขี้โรคและมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย

 

การดูแล


     พูเดิ้ล เหมือนกับสายพันธุ์อื่นที่มีขนสองชั้นเป็นปุย ดูคล้ายขนแกะ มีการผลัดขนเหมือนสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่จะจับตัวอยู่กับขนชั้นในซึ่งต้องคอยตัดแต่งขน พูเดิล สม่ำเสมอไม่เช่นนั้นขนจะจับตัวกันเป็นก้อน จนดูแลอยาก

      ถึงแม้ว่าเราต้องคอยดูแลเรื่องขนของ พูเดิ้ล เป็นพิเศษ แต่จะเป็นผลดีต่อคนที่มีอาการแพ้ขนสัตว์ และป้องกันขนและกลิ่นของสุนัขไปติดพรม เฟอร์นิเจอร์ หรือเสื้อผ้าได้ นอกจากนี้เรื่องของสุขภาพของพุดเดิ้ลยังสามารถดูแลได้โดยการให้อาหารที่ครบ ถ้วน คุณค่าสารอาหารและสมดุล รวมทั้งการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นกับสุนัขทุกตัว

อาหารน้องหมาทำเองได้ที่บ้าน




  Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ
     “น้องหมากินอาหารเม็ดรสชาติเดิมๆ ทุกวันคงเบื่อแย่เลย แต่ถ้าเราทำอาหารให้น้องหมากินเอง ก็ไม่รู้ว่าจะได้สารอาหารครบหรือเปล่า?” ... คำถาม และความกังวลนี้คงเกิดขึ้นในใจของผู้เลี้ยงหลายๆ คน ที่กลัวว่าการทำอาหารปรุงสุกให้น้องหมากินเองนั้น น้องหมาอาจจะไม่ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนเหมือนกับการให้อาหารเม็ดสำเร็จ รูปใช่ไหมคะ?

     ... จริงอยู่ที่การทำอาหารปรุงสุกให้น้องหมาเป็นเรื่องที่ต้องคิดคำนวณหลายขั้น ตอน และควบคุมปริมาณอาหารได้ยาก ทั้งต้องคำนวณหาปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมของน้องหมาต่อวัน ทั้งต้องตวงส่วนผสมในการทำอาหารแบบเป๊ะๆ ซึ่งก็มีความยุ่งยากอยู่พอตัวเมื่อเปรียบเทียบกับการให้น้องหมากินอาหารเม็ด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เลี้ยงจะไม่สามารถทำได้ค่ะ

     ผู้เลี้ยงอย่างเราๆ ก็สามารถทำอาหารปรุงสุกให้น้องหมากินเองได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเราต้องใส่ใจ และพิถีพิถันในการคิดคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมกับน้องหมาแต่ละตัวกันสัก หน่อย เพื่อที่น้องหมาจะได้รับสารอาหารแบบครบถ้วน ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปค่ะ


Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

ปริมาณอาหารเท่าไหร่ถึงเหมาะกับน้องหมา?

 Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ
  
  ก่อนที่ผู้เลี้ยงจะเริ่มทำอาหารปรุงสุกให้น้องหมาได้ลิ้มรสฝีมือ ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมากัน ก่อน ซึ่งการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับน้องหมาแต่ละตัวต่อวันนั้น ผู้เลี้ยงต้องพิจารณาจาก 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้ค่ะ
1.น้ำหนักตัว

2.ช่วงอายุ

3.สายพันธุ์และขนาด
     โดยการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมาแต่ละตัว ผู้เลี้ยงสามารถคำนวณตามหลักทฤษฎีของ  Universityof California, Davis campus School of Veterinary Medicine  คือ เอา 132 x (น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม) ^ 0.75 ก็จะได้เท่ากับปริมาณแคลอรี่ต่อวันของน้องหมาค่ะ

     หรืออีกสูตรหนึ่งที่เมืองไทยนิยมนำมาคำนวณกันก็คือ  RER (kcal)  = (30×น้ำหนักตัว (กก.)) + 70 โดยสูตรนี้จะได้แคลลอรี่มากกว่าสูตรแรกนิดหน่อยค่ะ

     ทั้ง 2 วิธีนี้ที่กล่าวมาอาจจะดูสับสนไปหน่อย ปังปอนด์ก็เลยเอา โปรแกรมการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมา แบบง่ายๆ โดยคำนวณจากน้ำหนักตัวของน้องหมามาฝากค่ะ เพียงแค่ผู้เลี้ยงเอาน้ำหนักตัวของน้องหมาไปกรอกลงในช่อง แล้วเลือกเปลี่ยนหน่วยเป็น กิโลกรัม โปรแกรมก็จำคำนวณปริมาณอาหารออกมาให้เสร็จสรรพเลยค่ะ ... แค่คลิกเดียวก็รู้เรื่องว่าน้องหมาของผู้เลี้ยงต้องการปริมาณอาหารเท่าไหร่ ต่อวัน ไม่ยุ่งยากจริงๆ ค่ะ

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

  เลือกวัตถุดิบให้มีคุณภาพ
 

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

     เมื่อผู้เลี้ยงคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของน้องหมาได้แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้เลี้ยงควรใส่ใจ และพิถีพิถันมากๆ ก็คือ การเลือกวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงอาหาร ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักที่จะส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของน้องหมา หรือเรียกได้เลยว่า สุขภาพน้องหมาจะดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่ผู้เลี้ยงคัดสรรมาปรุง ให้น้องหมาค่ะ

     เพราะฉะนั้น การเลือกวัตถุดิบ ผู้เลี้ยงจะต้องคำนึงถึงคุณภาพ และประโยชน์ที่ครบหมวดหมู่ตามหลักโภชนาการสำหรับน้องหมาเป็นสำคัญ ซึ่งประกอบด้วย   น้ำ โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน ค่ะ

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

     อย่างการเลือก เนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อวัว เป็ด หรือไก่  ผู้เลี้ยงควรเน้นวัตถุดิบประเภทโปรตีนเป็นหลัก  และหลีกเลี่ยงเนื้อส่วนที่มีไขมันสัตว์จำนวนมากมาปรุงอาหาร เพราะการที่น้องหมาได้รับไขมันในปริมาณที่มากเกินไป ไขมันอาจจะไปสะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้น้องหมาเกิดโรคต่างๆ อย่างเช่น โรคอ้วน ได้ค่ะ ซึ่งผู้เลี้ยงสามารถดูได้จากบทความ หยุด !! โรคอ้วนในสุนัข ด้วยหลักโภชนาการอาหารที่ถูกต้อง ค่ะ

      อย่างเนื้อสัตว์ที่เหมาะนำมาปรุงอาหารให้น้องหมาก็ได้แก่ เนื้อวัวก็จะเป็นเนื้อช่วงสะโพก เนื้อหมูบริเวณหลัง เนื้อแกะเลือกส่วนขา เนื้อไก่ตรงส่วนอกค่ะ เพราะว่าเนื้อส่วนตรงนี้เป็นส่วนของเนื้อที่มีปริมาณไขมันแทรกอยู่ในเนื้อ น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของร่างกายสัตว์ค่ะ

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

      ส่วนการเลือก ผัก หรือผลไม้ ก็เช่นเดียวกัน ผู้เลี้ยงควรศึกษาว่าผักชนิดไหนมีประโยชน์ที่น้องหมาสามารถกินได้ หรือผักชนิดไหนที่เป็นอันตรายกับน้องหมาค่ะ อย่างเช่น แครอท ช่วยให้สุนัขมีสุขภาพฟันที่ดีแข็งแรง ผักใบเขียว เช่น กะหล่ำปลี หรือผักโขม มีวิตามินที่ดีต่อน้อหมา ส่วน ฟักทอง ก็มีเส้นใยช่วยระบบย่อยอาหารที่ดีของน้องหมาค่ะ

      แต่กลับกันกับผักและผลไม้บางชนิดอย่างเช่น อะโวคาโด ผลไม้ที่ดีต่อมนุษย์แต่กลับเป็นเหมือนยาพิษสำหรับน้องหมาค่ะ ส่วน หัวหอม และกระเทียม เมื่อสุนัขกินเข้าไปแล้ว จะทำให้เลือดจางได้ค่ะ และหากน้องหมากินเข้าไปในประมาณมากๆ ก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะคะ ซึ่งเพื่อนๆ ผู้เลี้ยงสามารถศึกษาได้จากบทความ ผักและผลไม้ ที่มีคุณและโทษต่อสุนัข และบทความ อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข ค่ะ

เมนูง่ายๆ ทำได้ทุกบ้าน
 

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ
 

      เอาหล่ะเมื่อผู้เลี้ยงคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพกันได้แล้ว ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนที่ผู้เลี้ยงจะได้โชว์ฝีมือการทำอาหารสุดพิเศษที่เพียบ พร้อมไปด้วยคุณค่าให้น้องหมาแสนรักได้ลิ้มรสแล้วหล่ะ ... และในวันนี้ค่ะ ปังปอนด์จะยกตัวอย่างการทำอาหารให้คาวบอยน้องหมาสุดหล่อสายพันธุ์ชิวาวาของ ปังปอนด์แบบเป๊ะๆ  โดยปังปอนด์จะคำนวณเพื่อหาปริมาณแคลอรี่ต่อวันจากสูตร
132 x (น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม) ^ 0.75= ปริมาณแคลอรี่ต่อวันของน้องหมา

132 x (นำหนักคาวบอย 2 kg) ^ 0.75 = 255 กิโลแคลอรี่/วัน
     เมื่อได้ปริมาณปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของคาวบอยซึ่งอยู่ที่ 255 กิโลแคลอรี่/วัน แล้วที่นี้เราก็มาลงมือทำอาหารสูตรพิเศษ เริ่มจากเมนูแรก ...

1.สตูหมู

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

ส่วนผสม

เนื้อหมูไม่ติดมัน 50 กรัม (55 กิโลแคลอรี่)
มันฝรั่ง ½ หัว (42 กิโลแคลอรี่)
ไข่ไก่ 1 ฟอง (71 กิโลแคลอรี่)
แครอท 1 หัว  (30 กิโลแคลอรี่)
น้ำเปล่า

วิธีทำ

     นำเนื้อหมูมาสับให้ละเอียด คลุกเคล้ากับไข่ไก่จนรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นสับแครอทและมันฝรั่งเป็นลูกเต๋าเล็กๆ จากนั้นนำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ รอจนน้ำเดือดแล้วใส่หมูที่เตรียมไว้ลงไป ใส่แครอท และมันฝรั่งลงหม้อ รอจนแครอท และมันฝรั่งเริมนิ่มเพื่อน้องหมาจะได้กินง่าย เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ 


2.ไข่ตุ๋นตับไก่

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

ส่วนผสม


ไข่ไก่ 2 ฟอง (142 กิโลแคลอรี่)
ตับไก่ 25 กรัม ( 29 กิโลแคลอรี่)
 แครอท 1/3 หัว ( 10 กิโลแคลอรี่)
ข้าวโพด 30 กรัม ( 17 กิโลแคลอรี่)
น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ

ตีไข่ไก่ทั้ง 2 ฟองให้เข้ากัน จากนั้นผสมน้ำลงไปเล็กน้อย หั่นตับไก่ให้เป็นชิ้นเล็กๆ หั่นแครอทเป็นลูกเต๋า หั่นข้าวโพดให้ละเอียด นำตับไก่ แครอท และข้าวโพดที่หั่นเสร็จแล้วผสมลงในไข่ไก่ที่ตีไว้แล้ว คนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ภาชนะ นำไปนึ่งสัก 15 นาที เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟให้เจ้าตัวแสบจ้า ...

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

     เพื่อนๆ หลายๆ คน อาจจะสงสัยว่าทำไมปังปอนด์ถึงไม่ใส่พวกเครื่องปรุงรสลงไปในอาหารของน้องหมา เลยใช่ไหมคะ นั่นก็เพราะว่า รสชาติสำหรับน้องหมาแล้วไม่สำคัญเท่ากลิ่นค่ะ กลิ่นช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นการปรุงรสต่างๆ จึงไม่มีความจำเป็น อีกทั้งน้องหมาบางตัวยังมีโอกาสแพ้สารบางอย่างในสารปรุงรสด้วยค่ะ ทางที่ดีผู้เลี้ยงมืออาชีพอย่างเราควรหลีกเลี่ยงเครื่องปรุงรสพวกนี้ไว้จะดี กว่าค่ะ

     และอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ขอไฮไลท์ไว้ตัวโตๆ เลยก็คือ ในการให้อาหารปรุงสุกกับน้องหมาในแต่ละครั้ง ผู้เลี้ยงควรปรุงอาหารเป็นแบบมื้อต่อมื้อเพื่อคุณภาพ และเพื่อความสดใหม่ ให้อาหารปรุงสุกในปริมาณที่พอดีไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และไม่ควรวางอาหารปรุงสุกทิ้งไว้ให้น้องหมาตลอดทั้งวัน หรือค้างคืนไว้ เพราะอาหารน้องหมาจะบูด ซึ่งอาจทำให้น้องหมาท้องเสียได้ และทุกครั้งหลังให้อาหารน้องหมาเสร็จผู้เลี้ยงควรล้างถ้วยอาหารน้องหมาให้ สะอาดทุกครั้ง จะได้ป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้ค่ะ

Dogilike.com :: ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ

     เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ จริงๆ แล้วการทำอาหารปรุงสุกให้น้องหมาไม่ได้ยากเลยใช่มั้ยคะ เพียงแค่ผู้เลี้ยงต้องใส่ใจบวกกับพิถีพิถันกันขึ้นมาอีกนิดเท่านั้นเองค่ะ และเมื่อเพื่อนๆ ให้อาหารปรุงสุกกับน้องหมาแล้ว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมพาน้องหมาไปออกกำลังกายด้วยนะคะ เพราะว่าร่างกายที่แข็งแรงมาจากการให้อาหารที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับการออก กำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อน้องหมาก็จะได้สุขภาพดีแบบฟิตแอนด์เฟิร์ม น่ารักน่ากอดตลอดไปยังไงหล่ะคะ^^”
                                                            
                                                                   ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.dogilike.com